........กริ่งรุ่นแรก หลวงพ่อทบปลุกเสก ปี ๒๕๐๖ องค์เล็กกระทัดรัด ไว้ใช้พุทธคุณ ประสบกสรณ์ และ ตำนาน สุดยอด  แท้ดูง่าย ครับ........

........ข้อมูลที่ได้มาจาก หอวัฒนธรรมเพชรบูรณ์ ผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ละแวกวัด พระอาจารย์สูงอายุตามวัดใกล้เคียง

หลวงพ่อบึงสามพันเป็นพระพุทธรูปเนื้อสำริด ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 19 นิ้ว สูง 31 นิ้ว สร้างในสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอม ราวปี พศ.1600 ซึ่งตอนนั้นได้ครองกรุงสุโขทัยอยู่ พร้อมๆ กับการสร้างพระพุทธมหาธรรมราชา แต่ต่างกรรมต่างวาระต่างเวลา

พอยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 อาณาจักรขอมเริ่มอ่อนอำนาจลง ราว พศ. 1800 จึงเริ่มเจริญสัมพันธไมตรีต่อเมืองต่างๆ โดยอันเชิญพระพุทธรูปบูชาต่างๆ  ไปยังกษัตริย์และเจ้าเมืองต่างๆ เช่น พระพุทธมหาธรรมราชา อันเชิญมาเจริญสัมพันธไมตรีกับ พ่อขุนผาเมือง ส่วนหลวงพ่อบึงสามพันอันเชิญมายัง เจ้าเมืองแป้ว ( น่าจะแถว บึงสามพันหรือศรีเทพ ) ระหว่างการเดินทางก็จะอาศัยเรือในการอัญเชิญแต่มาล่มที่บึงสามพัน เพราะว่าสมัยก่อนที่บึงสามพันเรียกว่า ซับสมอทอด มีต้นสมอเยอะทอดไปตามคลอง และที่สำคัญ มีจระเข้ในบึงเยอะมากจนต้องมีคนมาล่าและจับไป จึงเรียกติดปากกันว่า บึง (จระเข้ ) สามพัน  เรือที่ล่มอาจจะมาจากจระเข้ล่มเรือ

เป็นเรื่องเล่าปากต่อปากกันมาโดยรับความรู้จาก ผอ. บุญยืน ออกเจนจบ ที่ได้รับรู้เรื่องราวจากยายท่านว่า ประมาณก่อนท่านเกิด 300 ปี 4 - 5 ชั่วอายุคนเล่าต่อกันมา ก็มีคุณ ยายท่านหนึ่งชื่อ คุณยายมอญ ไปยกยอหาปลาที่บึงนี้แหละ แต่ปรากฎว่ายอ ของคุณยายไปติดกับวัตถุบางอย่างในน้ำ ยกไม่ขึ้น ยายมอญจึงให้เพื่อนบ้านผู้ชายช่วยดำน้ำลงไปปลดยอให้ แต่ปรากฏว่ายอไปติดกับวัตถุบางอย่าง แหลมๆ แล้วหนักมาก จากนั้นเพื่อนบ้านดำไปปลดปรากฏว่าที่ยอไปติดเป็นพระพุทธรูป จึงดำไปเพื่อนำขึ้นมาแต่ไม่ไหว คุณยายเลยตั้งอธิฐานจิตว่า “ขอให้นำพระพุทธรูปขึ้นมาโดยง่ายดาย จะเทิดทูนไว้ยิ่งชีวิต” จึงอันเชิญไว้บนแคร่แล้วหามเพื่ออันเชิญหลวงพ่อมาประดิษฐานไว้ที่วัดเจดีย์ลอย ซึ่งละแวกบ้านคุณยายมีอยู่ 2 วัด มีวัดเจดีย์ลอย และ วัดโคกโพธิ์ทอง ( วัดคงสมโภชน์ ปัจจุบัน )  แต่พอผ่านวัดโคกโพธิ์ทอง แคร่ก็หักลงและต่อแคร่ใหม่ก็หักอีกหลายคนก็บอกกับยายว่าท่านคงอยากประดิษฐานวัดโคกโพธิ์ทอง ก็เลยอันเชิญท่านประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  แต่ตอนนั้นชาวบ้านเรียกหลวงพ่อบึงสามพันว่า หลวงพ่อยอ ( จากการมาติดยอของยายมอญ ) และ ได้เรียกหลวงพ่อบึงสามพันในเวลาต่อมา


หลังจากนั้นหลาย 100 ปีถัดมา ช่วงนั้นโจรขโมยเยอะปล้นสะดมในพื้นที่หนองไผ่และใกล้เคียง ประมาณ พศ. 2505-2506 มีโจรจะมาโขมยหลวงพ่อบึงสามพันที่วัด หลวงตาคงเป็นเจ้าอาวาสซึ่งเป็นคุณตาของ ผอ.บุญยืน  ได้มาเห็นเข้าจึงถูกโจรทำร้ายสลบไป แต่มาตอนเช้าหลวงพ่อบึงสามพันก็ยังอยู่จึงสันนิษฐานว่าหลวงพ่อท่านสร้างปาฏิหารย์ ต่างๆ นา ๆ  บ้างก็ว่าทำให้องค์ท่านใหญ่ขึ้นทำให้หนักและออกประตูพระอุโบสถไม่ได้ ก็เลยทำให้ญาติๆเป็นห่วงหลวงพ่อจึงให้ลูกเขยไปนอนเฝ้าที่วัดเกือบทุกคืน

และช่วงปีนี้เอง หลวงตาคงได้ดำริจะหาทุนทรัพย์เพื่อบูรณะพระอุโบสถ เพื่อให้แน่นหนาขึ้นเพราะพระอุโบสถไม่มีประตูแน่นหนาและหลังคาก็ชำรุด จึงได้นิมนต์ หลวงพ่อสิงห์ วัดราษฎร์สามัคคีธรรม นาเฉลียง หลวงพ่อทบ และพระอาจารย์อีก 2 ท่าน ผู้เล่าซึ่งเป็นคุณตาอายุ 80 ปีชาวบ้านในพื้นที่ละแวกวัดเล่าให้ฟังและยืนยัน เป็นพระกริ่ง ท่านจำจำนวนสร้างที่แน่นอนไม่ได้ เพราะพระทั้งหมดวางในพานทองเหลืองในวงพิธีและจำไม่ได้ว่านำมาจากไหนหรือสร้างที่วัด พิธีปลุกเสกจัดขึ้น ปีมะโรง ก่อนวันพระและก่อนสงกรานต์ไม่กี่วัน และวันนั้นต้องรอหลวงพ่อทบมาร่วมพิธีปลุกเสก คุณตาเล่าว่าหลวงพ่อทบมาช้าเพราะไปทำพิธีให้เจ้าน้อยที่กรุงเทพ ซึ่งสมัยนั้น เจ้าน้อยคือในหลวง พิธีปลุกเสกเสร็จประมาณบ่าย 3 โมง แต่คุณตาไม่ได้เช่าบูชาเพราะไม่ทันหมดก่อนคนมาเยอะ  ในช่วงปี 2508 โจรได้กลับมาอีกครั้งพร้อมอาวุธปืนบุกปล้น ในจังหวะนั้นพ่อของ ผอ. บุญยืน ซึ่งเป็นผู้นอนเฝ้าวัดอยู่ก็ปกป้องเต็มที่ และก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และต่อมาก็จับตัวโจรได้ ซึ่งตอนตำรวจไปจับโจรชาวบ้านเล่าว่า โจรได้ยอมให้จับแต่โดยดี ชาวบ้านจึงสันนิษฐานว่าหลวงพ่อท่านสร้างปาฏิหารย์ ต่างๆ นาๆ จึงทำให้ญาติโยมมาสักการะบูชาหลวงพ่อบึงสามพันมากขึ้น ในวันสำคัญต่างๆ ช่วงปี 2509 วัดก็เปลี่ยนชื่อเดิมจากวัดโคกโพธิ์ทองเป็น วัดคงสมโภชน์

จากข้อมูล ที่นำมาเรียบเรียง
ช่วง พ.ศ. 2507 ตรงกับปีมะโรง หลวงพ่อทบได้ร่วมพิธีปลุกเสกเหรียญ ร.9 ครบ 3 รอบ วันที่ 5 เมษายน 2507
พระกริ่งรุ่นนี้น่าจะสร้าง วันที่ 7 เมษายน 2507 เพราะตรงกับแรม 10 ค่ำเดือน 5 ปีมะโรง
แต่บางท่านว่า พ.ศ. 2506 เพราะตรงกับปีวันพระราชสมภพในหลวงตอนที่หลวงพ่อทบไปปลุกเสกที่ กทม.
เลยอาจเป็นที่มาพระกริ่งบึงสามพัน 2506........