หน้าหลัก ---> กระดาน ประวัติพระเกจิ ---> ชีวประวัติ หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม

Total 2 Record : 1 Page : 1

เน็ด นาป่า ชีวประวัติ หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม

ส่งข้อความ
 
 

ชีวประวัติ หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม วัดซับตะเคียน
พระอธิการวิชัยรัตน์ ฐิตธัมโม (ผู้มีธรรมเป็นฐาน หรือ ผู้มีจิตใจตั้งมั่นในธรรม) หรือที่ชาวบ้านทั่วไปรู้จักดีในนาม "หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม" เป็นพระเกจิอาจารย์ศิษย์เอกสืบสายวิทยาคม จากพระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือ หลวงพ่อทบ วัดช้างเผือก อ.เมืองเพชรบูรณ์ อดีตพระเกจิชื่อดังแห่งจังหวัดเพชรบูรณ์
หลวงปู่ขุ้ย เป็นพระภิกษุที่มีใจใผ่ปฎิบัติธรรมและรักษาวินัยอย่างเคร่งครัดในพระวินัยเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันหลวงปู่ขุ้ย (ปี2550) สิริอายุ 87 ปี 65 พรรษา ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดซับตะเคียน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
อัตโนประวัติ ถือกำเนิดในสกุล "ท่อนทอง" เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2454 ที่บ้านท่ามะทัน ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โยมบิดา-มารดา ชื่อนายทองดี และนางทองสุข ท่อนทอง
ช่วงวัยเยาว์เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่บ้านเกิด พอได้อายุ 12 ปี บิดาถึงแก่กรรมจึงบรรพชาบวชหน้าไฟ พ.ศ.2466 ให้โยมบิดา แต่ด้วยความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า แม้จะเสร็จงานศพบิดาจึงไม่ยินยอมลาสึกขา ขออนุญาตโยมมารดา บวชเรียนต่อไป
ต่อมาได้ทราบถึงกิตติศัพท์ของหลวงพ่อทบ วัดพระพุทธบาทชนแดน อ.ชนแดน เป็นพระเกจิอาจารย์ีที่มีประชาชนเคารพนับถือ จึงเกิดศรัทธา เดินทางจากบ้านเกิดไปยัง อ.ชนแดน เพื่อฝากต้วเป็นลูกศิษย์อยู่รับใช้อุปัฎฐาก ตักน้ำ เถกระโถนน้ำหมาก ล้างบาตร ปัดกราดเสนาสนะ ฯลฯ
ด้วยความเมตตาจากหลวงพ่อทบ จึงไดุ้ถ่ายทอดสรรพวิชาคาถา การทำตะกรุดโทน ลงเลขยันต์คาถาผ้ายันต์และได้ศึกษาปฎิบัติวิชากัมมัฎฐานและกำหนดจิต มีความรู้แก่กล้าตามลำดับ สามารถเสกข้าวสารให้ไก่กิน และศึกษาเรียนรู้ในการจัดสร้างพระกริ่ง พระรูปหล่อ ตามประเพณีโบราณ ผลสัมฤทธิ์ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สามเณรขุ้ยมีความชำนาญอย่างยิ่ง
ครั้นเมื่ออายุได้ 22 ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดศรีมงคล อ.หล่อสัก เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2476 โดยมีพระมหาหยวก เจ้าคณะอำเภอหล่มสัก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการคำปัน เป็นพระกรรมวาจารย์และพระอธิการวันดี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า "ฐิตธัมโม" มีความหมายว่า "ผู้มีจิตใจตั้งมั่นในธรรม"
ภายหลังอุปสมบท อยู่ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์ 2 พรรษา จึงได้กราบลา เดินทางไปจำพรรษายังวัดชนแดน เพื่อศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมและปฏิบัติกัมมัฏฐาน จากหลวงพ่อทบอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปฏิบัติธรรมแก่กล้าท่านได้กราบลาหลวงพ่อทบออกเดินทางธุดงวัตรไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
พ.ศ. 2486 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลท่าอีบุญ ปกครองพระสงฆ์-สามเณร ได้ระยะหนึ่งเกิดความเบื่อหน่ายจึงได้ขอลาออก และออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ แขวงจำปาสัก ประเทศเขมร
ตลอดระยะเวลาในการธุดงควัตร ท่านได้สนทนาธรรมกับพระสายวัดป่าหลายรูป และศึกษาไสยเวทจากอาจารย์เขมรและลาวหลายรูป
พ.ศ. 2517 หลวงปู่ขุ้ย ได้เดินธุดงควัตรตามแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ มุ่งหน้าขึ้นทิศตะวันออก ในที่สุดหลวงปู่ได้เดินทางมายังบ้านท่าด้วง ได้เล็งเห็นความเจริญที่จะเกิดขึ้นแก่หมู่บ้านนี้ในอนาคตประกอบกับมีป่าไม้ แหล่งน้ำไหลผ่าน ท่านจึงได้หยุดธุดงค์ และชักชวนชาวบ้านสร้างวัดขึ้นที่หมู่บ้านซับตะเคียน
บ้านซับตะเคียนเป็นบ้านป่าดงดิบเต็มไปด้วย เสือ ช้าง และสัตว์มีเขี้ยวพิษนานาชนิด เต็มไปด้วยไข้ป่า อยู่ห่างจาก อ.หนองไผ่ กว่า 40 ก.ม. ถ้าจะเดินทางมายังที่ตั้งตัวจังหวัด ต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือนเมื่อชาวบ้านเจ็บไข้ไม่สบาย หลวงปู่ขุ้ยได้เข้าป่าหาสมุนไพร มารักษาชาวบ้านด้วยตนเอง แทนยาจากในเมือง
เมื่อคราวเกิดโรคห่าระบาด หลวงปู่ได้นำยาสมุนไพรรักษาชาวบ้านจนหายป่วย เรื่องยาสมุนไพรเป็นที่ขึ้นชื่อมากแม้ถึงทุกวันนี้ ยังมีชาวบ้านที่เจ็บป่วยไปให้ท่านทำการรักษาอยู่ประจำ หลวงปู่ขุ้ยจำพรรษาชักชวนชาวบ้านเข้าวัดฟังธรรม รักษาศีล จนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน รวมทั้งได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็นเจ้าอาวาสวัดซับตะเคียนแห่งนี้
ด้านวัตถุมงคล หลวงปู่ขุ้ยได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อทบ บรรดาศิษยานุศิษย์ที่รู้ในกิตติศัพท์ด้านวิทยาอาคมของท่าน จึงได้ขอร้องให้ท่านจัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำเงินมาจัดสร้างเสนาสนะ ศาลา และอุโบสถ(กำลังจะสร้าง) ฯลฯ
หลวงปู่ขุ้ยได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาหลายรุ่น เป็นที่เชื่อถึอในความศักดิ์สิทธิ์ ในด้านเมตตามหานิยม และแคว้นคลาด จึงมีผู้ศรัทธาเลื่อมใส ไปขอบูชามากมายจนชื่อเสียงของท่านโด่งดังไปในหลายจังหวัด
วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมสูงคือ ตะกรุดโทน ตะกรุด 9 ชั้น รูปหล่อลอยองค์ อีกหลายรุ่น วัตถุมงคลที่สร้างขึ้น มีผู้มาขอบูชาหมดในเวลาไม่นาน และผู้ที่เช่าหาวัตถุมงคลของท่าน ต่างมีประสบการณ์แคล้วคลาดต่างๆ มากมาย
ในด้านการเผยแผ่ธรรม หลวงปู่ขุ้ยเป็นพระที่ทันสมัย ใช้ธรรมะสั่งสอนชาวบ้าน ให้รู้จักทำมาหากินด้วยความสุจริต มีความอดทน ขยันหมั่นเพียร มิให้ลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข ใช้ชีวิตอย่างสมถะและพอเพียง ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
หลวงปู่ขุ้ย ได้สั่งสอนให้ชาวบ้านได้เจริญภาวนาสมาธิ ให้ยึดมั่นในหลักธรรมของพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตาม ศีล 5 ศีล 8 หรืออุโบสถศีล อย่างเคร่งครัด ให้เป็นคนคิดดี ทำดี พูดดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน
หลวงปู่ขุ้ย ถือเป็นผู้นำทางคุณธรรมศีลธรรม ของชาวบ้านซับตะเคียนอย่างแท้จริงด้วยความที่เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่สะสม และยึดติดในอดิเรกลาภ ชาวบ้านทั้งอำเภอ ต่างจังหวัด จึงให้ความเคารพศรัทธา ด้วยกุศลจิตอย่างแท้จริง แม้ล่วงวัย 87 ปี แต่หลวงปู่ขุ้ยยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไปกิจนิมนต์ไกลๆ ได้โดยไม่เหน็ดเหนื่อย
หลวงปู่บอกว่า ที่ท่านอายุยืน มิเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเพราะว่า ท่านทำสมาธิ เจริญภาวนาและทำจิตใจให้ผ่องใสตลอดเวลา ไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลง ส่วนมากจะฉันอาหารประเภทผัก ผลไม้เป็นประจำ
หลวงปู่ขุ้ยเป็นพระสายปฏิบัติและเป็นศิษย์รูปสุดท้ายของหลวงพ่อทบ วัดของท่านอยู่ติดเทือกเขาเพชรบูรณ์ เขตแดนติดต่อ อ.หนองบัวแดง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ถ้าไม่มีกิจนิมนต์ที่ใด ส่วนมากท่านจะอยู่ที่วัดเป็นประจำ นับเป็นพระที่ดีอีกรูปหนึ่งของเมืองมะขามหวาน...ครับ
พระอธิการวิชัยรัตน์ (หลวงปู่ขุ้ย) ฐิตธัมโม

ชื่อเดิม วิชัยรัตน์(ขุ้ย)ท่อนทอง เกิดเมื่อวันพุธ ที่ 20 พฤษภาคม 2454 บ้านท่าอีบุญ ต.ท่าอีบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 12 ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 22 ปี ณ วัดศรีมงคล ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เดินทางมาจำพรรษาและสร้างวัดซับตะเคียน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2517 อาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อ เข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ละสังขารอย่างสงบใน วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2554 เวลา 15.07 น.ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ เดือน 9 สิริอายุรวม 100 ปี 3 เดือน 6 วัน เก็บสรีระสังขารของท่านอย่างถาวรให้ลูกหลานได้กราบไหว้สักการะ ณ วัดซับตะเคียน 100 วัน ทำพิธีเผา(หลอก) เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 1 และเคลื่อนย้ายสรีระสังขารบรรจุโลงแก้วไว้ภายในมหาเจดีย์พระธาตุอรหันต์108 เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ตรงกับแรม 15 ค่ำ เดือน 6 (เรียบเรียงโดยดามส์ ซับตะเคียนและเน็ด นาป่า แก้ไขบางส่วนจากหนังสือวัตถุมงคลและพระคาถาของวัดซับตะเคียน) เพื่อเป็นวิทยาทานต่อไปครับ...

 

 























ชีวประวัติ หลวงปู่ขุ้ย ฐิตธัมโม



โดย  เน็ด นาป่า  วันที่ 2014-01-10 03:06:39 
 
1.  

ส่งข้อความ
                       



พระอธิการวิชัยรัตน์ (หลวงปู่ขุ้ย) ฐิตธัมโม

      ชื่อเดิม วิชัยรัตน์(ขุ้ย)ท่อนทอง เกิดเมื่อวันพุธ ที่
20 พฤษภาคม 2464 บ้านท่าอีบุญ ต.ท่าอีบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 12 ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ 22 ปี ณ วัดศรีมงคล ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เดินทางมาจำพรรษาและสร้างวัดซับตะเคียน ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ.2517 อาพาธด้วยโรคปอดติดเชื้อ เข้ารักษาอาการที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ละสังขารอย่างสงบใน วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2554 เวลา 15.07 น.ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ เดือน 9 สิริอายุรวม 90 ปี 3 เดือน 6 วัน เก็บสรีระสังขารของท่านอย่างถาวรให้ลูกหลานได้กราบไหว้สักการะ ณ วัดซับตะเคียน 100 วัน ทำพิธีเผา(หลอก) เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 1 และเคลื่อนย้ายสรีระสังขารบรรจุโลงแก้วไว้ภายในมหาเจดีย์พระธาตุอรหันต์108 เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ตรงกับแรม 15 ค่ำ เดือน 6 (เรียบเรียงโดยดาม ซับตะเคียนและเน็ด นาป่า จากหนังสือวัตถุมงคลและพระคาถาของวัดซับตะเคียน) เพื่อเป็นวิทยาทานต่อไปครับ...






โดย  เน็ด นาป่า  วันที่ 2014-01-26 18:39:46 
 
2.  

ส่งข้อความ
 




โดย  เน็ด นาป่า  วันที่ 2016-02-29 18:32:00 
 

Total 2 Record : 1 Page : 1