หน้าหลัก ---> กระดาน พูดคุยเรื่องทั่วไป ---> เปิดชีวิต น้องสิน เด็กตาบอดถูกแม่ทำแท้งแต่รอดชีวิต

เปิดชีวิต น้องสิน เด็กตาบอดถูกแม่ทำแท้งแต่รอดชีวิต

 
 

Mthainews: รายการคนค้นคน ออกอากาศวันที่ 19 มิ.ย.นำเสนอเรื่องราวของเด็กชายน้อย มีเมตตา หรือน้องสิน วัย 10 ขวบ ที่เกิดมามีต้นทุนชีวิตติดลบกว่าเด็กคนอื่นๆ เพราะคุณแม่ทิ้งน้องสินไปตั้งแต่เกิด อีกทั้งแม่ของน้องศีล พยายามทำแท้ง แต่ไม่สำเร็จ ทำให้มีปัญหาเรื่องสายตา ตาขวาบอดสนิท ส่วนตาซ้ายก็สายตาสั้น และค่อยๆเสื่อมสภาพกลายเป็นคนตาบอดสนิททั้งสองข้างในอนาคต

แม่ของน้องสิน ทำแท้งเมื่อน้องศีลอยู่ในท้องแค่ 6 เดือน แต่พยาบาลช่วยชีวิตไว้ได้ ทิ้งน้องศีลไว้ที่โรงพยาบาล แล้วหนีไป จนแม่ชีมาเห็น สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงให้ความช่วยเหลือ เลี้ยงดู รับอุปการะเสมือนลูก

แม้ว่าจะมองไม่เห็นอะไร แต่น้องสิน กลับมองเห็นถึงความสำคัญของความรัก พร้อมมอบให้กับทุกคน โดยแม่ชีก็สอนให้น้องสิน ยอมรับว่า ต้องยอมรับว่ามันเกิดขึ้นกับเรา เราต้องยอมรับ วันข้างหน้าถ้าเราคิดได้ เรายังจะโชคดีกว่าคนอีกหลายๆคน

แม่ชีชญาณ์พิมพ์ ชินปิติวงษ์ หรือแม่ชีเพ็ญ รับน้องสิน มาอุปการะ พร้อมกับเด็กคนอื่นๆที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง แม้ว่าจะไม่ร่ำรวยอะไร เพราะอดีตก็ประสบกับปัญหาธุรกิจล้มละลาย และร่างกายไม่ค่อยสบายนัก แต่ก็ให้ความรักกับเด็กทุกคน แต่น้องศีลจะต้องดูแลเป็นพิเศษ แม่ชีเพ็ญกล่าวถึงลูกบุญธรรมคนนี้ว่า สิน เป็นเด็กดี โตมาจะต้องมีศักยภาพคนหนึ่ง เพราะนิสัยไม่ก้าวร้าว ไม่พูดคำหยาบ มีเหตุผล ชอบแบ่งปัน มีความรัก เอื้ออาทร เสียสละทุกอย่างเพื่อคนอื่น

แม่ชีตัดสินใจส่งน้องสิน ไปเรียนที่โรงเรียนคนตาบอด เพื่อความพร้อมในอนาคต แต่ด้วยความผูกพันกับแม่ชี น้องสิน กอดแม่ชีแน่น ไม่อยากจากจากแม่ชี นอนกลางคืนน้องก็จะร้องไห้ ใจเต้น กอดแม่จนแน่น ไม่อยากไปโรงเรียน น้ำตาไหลทุกครั้ง แต่แม่ชีก็ตัดสินใจส่งไปเรียน เพราะนี่คือสิ่งที่เหมาสมสำหรับเขา เป็นห่วงทุกเวลา นกมันก้ต้องบินออกจากรัง และรู้จักกลับรัง น้องศีลก็เช่นเดียวกัน โตขึ้นมาจะได้กลับอยู่กับแม่

น้องสิน กล่าวว่า คิดถึงแม่ น้องคงร้องไห้สะอื้นตั้งแต่แม่ไป จนนอนหลับคงไม่หายสะอื้น ปกตินอนกับแม่ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะนอนคนเดียวได้หรือเปล่า น้องสิน ต้องมาเรียน ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ เป็นเด็กนักเรียนประจำ วันแรกที่น้องสิน มาโรงเรียน ก็ไม่ต่างจากเด็กคนอื่น ที่ยังผูกพันกับแม่ชี อาลัยอาวรณ์ ปล่อยโฮร้องไห้ออกมา พร้อมกับกอดแม่ชีอย่างที่เคยทำอยู่ประจำ เพราะโลกของน้องสิน คนที่สำคัญที่สุดก็คือแม่ชี

แม่ชีรักน้องสิน เหมือนลูก แต่ต้องส่งน้องสิน ไปเรียน แม่ชีบอกว่า เขาก็เหมือนต้นไม้ ต้องให้เขาไปอยู่ที่เหมาะสม อย่างถ้าเขาเป็นกระบองเพชรก็ต้องให้เขาไปอยู่ในดินทราย เราจะให้เขาไปอยู่ดินมีน้ำเขาก็ตาย ถ้าเขาเป็นจอกแหนเขาก็จะไปลอยในน้ำ เราให้ได้เพียงอาหาร แต่การเจริญเติบโตต่อไปคือหน้าที่เขา

ถ้าเรารักเขาโอบอุ้มเขาก็เพียงแค่เด็กตาบอดภายในบ้าน เป็นภาระให้คนอื่นๆในอนาคต สู้ให้เขาเป็นเด็กตาบอดอย่างมีศักยภาพ เรียนรู้ในโรงเรียนที่สามารถสอนคนตาบอดได้ดีกว่าเรา เขาก็จะโตมาได้ใช้ชีวิตที่ดีกว่า

คุณครูอัญชลิกา ตนานนท์ ครูประจำชั้นของน้องสิน กล่าวว่า น้องศีลเป็นคนดี ไม่มีปัญหา ช่วยเหลือเพื่อน ดูแลเพื่อน มีน้ำใจมาก

“แม่บอกว่าให้ช่วยเก็บแก้วเก็บชาม เพราะแม่สอนไว้ คิดถึงแม่ทุกวัน เป็นห่วงแม่เพราะแม่ไม่สบาย แม่บอกว่าให้ตั้งใจเรียน ก็บอกรักแม่ทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์คุยกับแม่ ” น้องสิน กล่าว

ครูอาภรณ์ ลามอ หรือครูแขกบอกว่า ทุกครั้งที่เลิกเรียน เขาก็จะมาสวัสดี มากอด หอม หรือเอาของมาฝากเผื่อเก็บไว้ให้น้องที่บ้าน ทุกวันเขาจะปฏิบัติแบบนี้ตลอด เวลาคุยกับเขารู้สึกบอกไม่ถูก แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ

“เก็บเงินให้แม่ใช้ เพราะเดี๋ยวแม่เป็นอะไรแม่จะได้ใช้จ่ายได้ แม่ลำบาก ป่วย ไปโรงพยาบาลทุกวันตอนที่แม่ปวดขา และตอนนี้แม่ก็ไม่ค่อยสบาย ”

ในวันปิดภาคเรียน น้องสิน ได้เวลากลับบ้านพร้อมกับตุ๊กตา ของเล่นที่เก็บสะสมไว้ไปฝากน้องๆที่บ้าน รอยยิ้มของน้องศีลแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี น้องสิน บอกว่า คิดถึงแม่ตลอดเวลาแต่เราก็ต้องไปเรียน สิ่งที่นำมาให้แม่คือ ความรัก ความห่วงหาอาวรณ์ ที่มีให้อย่างเต็มเปี่ยม

ในอนาคต น้องสิน คงจะมองไม่เห็น แต่การสั่งสอนจากแม่ชี ทำให้จิตใจน้องไม่มืดบอด แม้ว่าจะมีร่างกายไม่สมบูรณ์ การสั่งสมความรู้ ความดีของน้องสิน ทำให้จะสามาถเจริญเติบโตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ

ขอขอบคุณMthai News

           และ
ขอขอบคุณภาพ เนื้อหารายการคนค้นฅน