หน้าหลัก ---> กระดาน โชว์พระเครื่อง ---> กริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ เนื้อนวะโลหะ ๒๕0๖

Total 6 Record : 1 Page : 1

chusak กริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ เนื้อนวะโลหะ ๒๕0๖

ส่งข้อความ

กริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ เนื้อนวะโลหะ ๒๕0๖



โดย  chusak วันที่ 2012-08-20 16:47:19 
 
1.  

ส่งข้อความ
    กริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ สภาพสวยมาก มีจารครบสูตร ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) พระกริ่งวัดสุทัศนเทพวรารามที่สืบสานตำราการสร้างต่อมาอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจมิน้อยทีเดียว เป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เมื่อครั้งยังดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวิสุทธาจารย์ ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศนเทพวรารามชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น พระกริ่งหลังปิ มีพุทธลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิเพชร ปางมารวิชัย พระหัตถ์ซ้ายทรงถือวชิระ ทรงคล้ายหัวปลี มีขนาดความสูง 3.2 เซนติเมตร ฐานกว้าง 1.9 เซนติเมตร ฐานบัวมี 7 คู่ ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" มีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ซึ่งคงถอดพิมพ์ดังกล่าวมา มีจำนวนสร้างมากถึง 10,000 องค์ ประกอบพิธีเททองและพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม เมื่อวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2506 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน มีพระเกจิอาจารย์ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก กระแสเนื้อเดิมเป็นสีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาว มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย โค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี และต้องมีรอยจารทุกองค์ 
    ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 เหตุที่ดำเนินการสร้างพระกริ่งนั้น ด้วยในระหว่างนั้นสภาพของทางวัดสุทัศนเทพวรารามชำรุดทรุดโทรมลงเป็นอันมาก ประกอบกับสภาพวัดที่ใหญ่โต หากบูรณะก็ต้องใช้เงินมิใช่น้อย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) จึงได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) ขึ้น ด้านหลังมีโค้ตตัว "ปิ" อาจไม่ได้ตอกตรงฐานหลัง แต่จะมีการตอกตรงก้นฐานที่เว้าเป็นแอ่งกระทะก็มี เพื่อแยกความแตกต่างพระซึ่งมีพุทธลักษณะคล้ายกับพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) เมื่อประกอบพิธีเททองพระกริ่งเสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม)ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระคณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ,หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์รวมทั้งหลวงปู่ดู่ที่จารเป็นยันต์กอหญ้าด้วย เป็นเวลาทั้งสิ้นปีเต็ม แล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯเมื่อวันที่ ๖-๗-๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๘เป็นเวลาสามวันสามคืน





โดย  chusak วันที่ 2012-08-20 16:49:27 
 
2.  

ส่งข้อความ
     โดยมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงเข้านั่งปรกปลุกเสกจำนวนกว่า ๔๐ รูป อาทิเช่น
๑. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ๒.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ๓.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ๔.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม ๕.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ๖. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ๗.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ ๘.หลวงพ่อถิร์ วัดป่าเลไลยก์ ๙.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ๑๐.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ๑๑.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม ๑๒.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ๑๓. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ ๑๔.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ๑๕.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม ๑๖.หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ๑๗.หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต ๑๘.หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ๑๙.หลวงปู่นาค วัดระฆัง ฯลฯ เป็นต้น
กระแสเนื้อเดิมเป็นสีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาวแบบปีกแมลงทับ มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปรายพระกริ่งหลังปิบางส่วนที่ยังคงเหลือได้เก็บไว้ในพระอุโบสถ บางส่วนที่ยังไม่ได้ตัดก้านชนวน ก็เก็บไว้ทั้งก้าน ต่อเมื่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) มรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.2526 ทางมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ได้รับอนุญาตจากคณะสงฆ์ให้นำพระกริ่งหลังปิ ออกจากพระอุโบสถมาให้ประชาชนเช่าบูชาอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของพระกริ่งที่ยังไม่ได้ตัดจากก้าน ทางมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ได้ตัดแต่งแล้วตอกโค้ตตัวปิ ที่ทำขึ้นใหม่มาตอก แล้วนำไปให้พระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง) วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม อธิษฐานจิตปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง





โดย  chusak วันที่ 2012-08-20 16:51:03 
 
3.  

ส่งข้อความ
พบพระตกค้าง
เมื่อวันที่ ๒๗ ต.ค. ๒๕๒๗ ได้มีการค้นพบพระกริ่งหลัง”ปิ”ภายในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ โดยพบอยู่จำนวน ๗๐๐ องค์เป็นพระที่ตัดจากช่อแล้วจำนวนสองร้อยเศษ ที่เหลือเป็นพระที่ยังอยู่ครบทั้งช่อ ทางวัดได้ส่งให้ช่างทำการตัดออกเป็นองค์ๆซึ่งกว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็เมื่อ ๑๕ ม.ค.๒๕๒๘ แล้วทางวัดสุทัศน์ได้นำไปถวายให้หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีทำการปลุกเสกอีกครั้ง.มูลเหตุที่ทำให้พบพระกริ่งหลัง”ปิ”คือพระทองสุข ผู้ดูแลด้านพระเครื่องวัตถุมงคลได้ทำการเปิดพระอุโบสถทำการสำรวจโดยมีคณะกรรมการของวัดซึ่งมีคุณสำเภา ปานรัตน์และคุณธรรมนูญ เพชรลีลาร่วมอยู่ด้วย เนื่องจากพระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์(เสงี่ยม ) ปี ๒๕๑๖ ได้มีประชาชนบูชาไปจนหมด จึงได้เปิดพระอุโบสถเพื่อนำเอาพระสมเด็จที่เก็บรักษาไว้ภายในพระอุโบสถออกมาให้สาธุชนได้ร่วมบูชา เพื่อนำปัจจัยไปซ่อมแซมพระอารามที่ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา โดยการเปิดอุโบสถได้รับคำอนุญาตจากท่านเจ้าอาวาส. ทำให้พบพระกริ่งหลัง”ปิ”ด้วย พระกริ่งหลัง”ปิ”เป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์เสงี่ยมสร้างไว้เมื่อคราวปี พ.ศ.๒๕๐๖และปลุกเสกใหญ่ พ.ศ.๒๕๐๘ พระกริ่งดังกล่าวเป็นเนื้อนวโลหะสวยงาม ทำการหล่อแบบโบราณโดยนายช่างหรัส พัฒนางกูล ช่างประจำตัวของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) แต่หย่อนทางด้านความสวยงามเพราะพระทั้งหลายไม่ได้รับการตกแต่งภายหลังจากการเททองแล้ว จำนวนการสร้างจริงๆในคราวนั้นสร้าง ๕,๐๐๐ องค์ และได้แจกให้สาธุชนที่ร่วมบริจาคปัจจัยในการซ่อมแซมพระอุโบสถของวัดสุทัศน์ฯ โดยได้แจกไปจนหมด.หลังจากพระได้ตัดจากช่อแล้วปลุกเสกโดยหลวงพ่อเนื่องจนเสร็จเรียบร้อยเมื่อ ๒ ก.พ.๒๕๒๘.





โดย  chusak วันที่ 2012-08-20 16:51:41 
 
4.  

ส่งข้อความ





โดย  chusak วันที่ 2012-08-20 16:54:00 
 
5.  

ส่งข้อความ




ขอขอบคุณ
บทเพลงจากyoutube





โดย  chusak วันที่ 2012-08-20 18:35:10 
 
6.  

ส่งข้อความ
พระสวยข้อมูลแน่น..เยี่ยมครับ





โดย  เล็กบางกอก วันที่ 2012-09-18 17:38:46 
 

Total 6 Record : 1 Page : 1